ในวันหนึ่งที่อากาศร้อนจัด และแสงแดดส่องสว่างทั่วชายหาด อีกาตัวหนึ่งบินไปตามแนวชายฝั่ง มันรู้สึกหิวและต้องการหาที่พักพิงจากความร้อน มันค้นหาสถานที่สบาย ๆ และหยุดพักใกล้โขดหินที่ริมทะเล
ขณะที่อีกากำลังพักผ่อนอยู่บนโขดหิน มันสังเกตเห็นหอยแมลงภู่ที่ติดอยู่บนโขดหินโดยไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ หอยแมลงภู่พยายามยืดตัวและคลานออกจากที่ติดอยู่ แต่ดูเหมือนว่ามันจะติดแน่นมากเกินไป
หอยแมลงภู่มองไปที่อีกาด้วยความสิ้นหวังและตะโกนออกมา “กรุณาช่วยฉันด้วย! ฉันติดอยู่ที่นี่และไม่สามารถเคลื่อนที่ได้เลย”
อีกาเห็นใจและบินลงไปใกล้หอยแมลงภู่ มันใช้ปากแข็งแรงของมันพยายามดึงหอยแมลงภู่ออกจากโขดหิน อย่างไรก็ตาม การดึงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะหอยแมลงภู่ติดแน่นกับหินอย่างมาก และอีกาก็ต้องใช้ความพยายามอย่างหนัก
อีกาต้องพักเพื่อพักหายใจแล้วกลับมาทำงานอีกครั้ง โดยไม่ยอมแพ้ มันพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยหอยแมลงภู่ แม้จะเหนื่อยและทุลักทุเล แต่ความตั้งใจของมันไม่ลดลง
หลังจากผ่านไปหลายช่วงเวลาและหลายความพยายาม ในที่สุด อีกาก็สามารถดึงหอยแมลงภู่ออกจากโขดหินได้สำเร็จ หอยแมลงภู่หลุดออกจากที่ติดอยู่และมีความสุขมาก
“ขอบคุณมาก! ฉันไม่รู้จะพูดอะไรดี” หอยแมลงภู่กล่าวด้วยความซาบซึ้ง “ฉันติดอยู่ที่นี่นานมากและไม่มีใครช่วยฉันได้เลย”
อีกาตอบด้วยรอยยิ้ม “ไม่เป็นไรเลย การช่วยเหลือกันเป็นสิ่งที่ดีเสมอ ฉันดีใจที่สามารถช่วยคุณได้”
หอยแมลงภู่รู้สึกซาบซึ้งในความเมตตาของอีกาและเสนอให้มันอยู่ที่ชายหาดเพื่อพักผ่อนด้วยกัน “เราสามารถเป็นเพื่อนกันได้ไหม? และฉันจะคอยช่วยเหลือคุณหากคุณต้องการ”
อีกายิ้มกว้างและตอบว่า “แน่นอน ฉันยินดีที่ได้มีเพื่อนใหม่ และเราจะช่วยเหลือกันเสมอ”
หลังจากนั้น อีกากับหอยแมลงภู่กลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ทั้งคู่มักจะพบกันที่ชายหาดและช่วยเหลือกันในยามที่ต้องการ อีกากลายเป็นผู้ช่วยเหลือหอยแมลงภู่ในการหาอาหาร และหอยแมลงภู่ก็ดูแลอีกาในเวลาที่มันต้องการพักผ่อน
นิทานเรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่าความเมตตาและการช่วยเหลือซึ่งกันและกันสามารถสร้างมิตรภาพที่แข็งแกร่งและทำให้โลกนี้เป็นสถานที่ที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน ความร่วมมือและความเข้าใจในผู้อื่นเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนและเติมเต็มชีวิต
บทเรียนจากนิทาน: นิทานนี้สอนให้เราเห็นถึงความสำคัญของการช่วยเหลือและการทำงานร่วมกัน ความเมตตาและความร่วมมือสามารถสร้างมิตรภาพที่แข็งแกร่งและทำให้โลกดีขึ้นสำหรับทุกคน