ในทุ่งหญ้ากว้างใหญ่มีฝูงแกะอาศัยอยู่พร้อมกับสุนัขเลี้ยงแกะที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด วันหนึ่ง หมาป่าตัวหนึ่งเดินผ่านมาทางทุ่งหญ้า มันเห็นฝูงแกะกำลังกินหญ้าอย่างสงบสุข หมาป่าจึงคิดว่านี่เป็นโอกาสอันดีที่จะได้ล่าแกะสักตัวเพื่อประทังความหิว
หมาป่าจึงค่อยๆ แอบเข้าไปใกล้ฝูงแกะ แต่ไม่ทันไร สุนัขเลี้ยงแกะก็สังเกตเห็นหมาป่า มันเห่าดังลั่นและวิ่งเข้ามาไล่หมาป่า หมาป่าตกใจและวิ่งหนีอย่างรวดเร็ว แต่ยังไม่ละความพยายาม มันจึงคิดแผนใหม่
วันรุ่งขึ้น หมาป่าปลอมตัวเป็นแกะ มันคลุกตัวลงในดินโคลนและหญ้า ทำให้ขนของมันดูเหมือนขนแกะ เมื่อมันกลับมาที่ทุ่งหญ้า สุนัขเลี้ยงแกะไม่สามารถแยกแยะหมาป่าจากแกะได้ หมาป่าจึงสามารถเข้ามาใกล้ฝูงแกะได้อย่างง่ายดาย
เมื่อเวลากลางคืนมาถึง และสุนัขเลี้ยงแกะหลับไป หมาป่าที่ปลอมตัวเป็นแกะจึงเริ่มเลือกเหยื่อของมัน แต่มันไม่รู้ว่าแกะตัวหนึ่งได้สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ แกะตัวนั้นจึงปลุกเพื่อนๆ และพวกมันก็พากันวิ่งหนี
เมื่อหมาป่ารู้ว่ามันถูกจับได้ มันจึงถอดหน้ากากแกะออกและพยายามล่าแกะ แต่มันก็ช้าไปแล้ว แกะทั้งหมดหนีไปยังที่ปลอดภัย
หมาป่าต้องกลับไปอย่างหมดหวัง ไม่มีแกะตัวไหนที่มันสามารถล่าได้ ในขณะที่สุนัขเลี้ยงแกะตื่นขึ้นและเห็นหมาป่ากำลังเดินจากไป มันจึงเห่าไล่หมาป่าจนลับสายตาไป
คติสอนใจ
นิทานเรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่า “การแอบแฝงและหลอกลวงอาจดูเหมือนจะสำเร็จในตอนแรก แต่ความจริงก็ย่อมปรากฏในที่สุด และผู้ที่คิดร้ายมักจะต้องเผชิญกับความล้มเหลว”