ขั้นระบุปัญหา (Identify the Problem)
การระบุปัญหาเป็นขั้นตอนแรกและสำคัญที่สุดในกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เพราะเป็นจุดเริ่มต้นที่กำหนดทิศทางและเป้าหมายของการแก้ปัญหา หากการระบุปัญหาไม่ชัดเจน จะส่งผลต่อประสิทธิภาพของการออกแบบและการพัฒนาผลิตภัณฑ์
เป้าหมายของขั้นระบุปัญหา
- เข้าใจปัญหาอย่างแท้จริง:
- ศึกษาว่าปัญหาคืออะไร
- ใครได้รับผลกระทบ และความต้องการที่แท้จริงของพวกเขาคืออะไร
- กำหนดขอบเขตของปัญหา:
- ระบุสิ่งที่สามารถทำได้และข้อจำกัด เช่น เวลา งบประมาณ และทรัพยากร
- ระบุเป้าหมายชัดเจน:
- กำหนดสิ่งที่ต้องการบรรลุ เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพ การลดค่าใช้จ่าย หรือการแก้ปัญหาความสะดวกสบาย
ขั้นตอนในกระบวนการระบุปัญหา
- การเก็บข้อมูลเบื้องต้น:
- ใช้วิธีการสัมภาษณ์หรือแบบสอบถามเพื่อเก็บข้อมูลจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
- ศึกษาข้อมูลทางเทคนิคหรือผลการวิจัยที่เกี่ยวข้อง
- การวิเคราะห์ปัญหา:
- แยกส่วนของปัญหาออกมาเพื่อทำความเข้าใจว่าเกิดขึ้นจากอะไร
- ใช้เทคนิค เช่น Fishbone Diagram หรือ 5 Why Analysis
- การตั้งคำถามสำคัญ:
- “ปัญหานี้คืออะไร?”
- “ใครคือผู้ที่ได้รับผลกระทบ?”
- “ความสำคัญของการแก้ไขคืออะไร?”
- การจัดลำดับความสำคัญ:
- หากมีหลายปัญหา ให้จัดลำดับความสำคัญโดยพิจารณาจากความเร่งด่วนและผลกระทบ
ตัวอย่างการระบุปัญหา
- การออกแบบอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้สูงอายุ:
- ปัญหา: ผู้สูงอายุมีข้อจำกัดในการเคลื่อนไหว
- ขอบเขต: อุปกรณ์ต้องมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา และใช้งานง่าย
- การพัฒนาระบบประหยัดพลังงานในอาคาร:
- ปัญหา: อาคารใช้พลังงานเกินความจำเป็นในช่วงกลางวัน
- ขอบเขต: ระบบต้องคุ้มค่ากับการลงทุนและติดตั้งง่าย
- การปรับปรุงระบบขนส่งสาธารณะ:
- ปัญหา: รถโดยสารประจำทางไม่เพียงพอในชั่วโมงเร่งด่วน
- ขอบเขต: ระบบต้องปรับปรุงโดยไม่กระทบการเดินรถ
ข้อดีของการระบุปัญหาที่ชัดเจน
- ทำให้สามารถวางแผนแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด
- ลดความเสี่ยงของการเสียทรัพยากรไปกับการแก้ไขที่ไม่จำเป็น
- ช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างนวัตกรรมที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งาน