4 เรื่องจริงของ “เครื่องมือการเงิน” ที่โรงเรียนไม่เคยสอน
หลายคนทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างรายได้ แต่กลับไม่แน่ใจว่าจะจัดการกับเงินที่หามาได้อย่างไรให้มีประสิทธิภาพที่สุด นั่นเพราะ “เครื่องมือ” ทางการเงินแต่ละชิ้นดูซับซ้อนและน่าสับสนไปหมด
แต่หัวใจสำคัญที่สุดของการวางแผนการเงิน คือการเข้าใจ “หน้าที่ที่แท้จริง” ของเครื่องมือแต่ละอย่างก่อนที่จะเลือกใช้ บทความนี้จะเปิดเผย 4 ความจริงเกี่ยวกับเครื่องมือการเงินพื้นฐาน ที่อาจเปลี่ยนมุมมองของคุณเกี่ยวกับการออม การลงทุน และการปกป้องความมั่งคั่งอย่างสิ้นเชิง
——————————————————————————–
1. ที่ที่ “ปลอดภัย” ที่สุด อาจทำให้เงินคุณลดลง
เมื่อพูดถึงการเก็บเงิน บัญชีเงินฝาก (Deposit Account) ซึ่งรวมถึงบัญชีที่เราคุ้นเคยกันดีอย่าง บัญชีออมทรัพย์ และ บัญชีฝากประจำ มักจะเป็นตัวเลือกแรกที่ทุกคนนึกถึง เพราะเป็นเครื่องมือที่มีความเสี่ยงต่ำมากและมีสภาพคล่องสูง สามารถถอนออกมาใช้ได้สะดวก
แต่ความจริงที่น่าตกใจก็คือ ความปลอดภัยนี้มีต้นทุนที่ต้องจ่าย อัตราดอกเบี้ยที่ได้รับจากบัญชีเงินฝากนั้นต่ำมาก และบ่อยครั้งก็ต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อเสียอีก นั่นหมายความว่า แม้ตัวเลขในบัญชีจะเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ อำนาจการซื้อของเงินจำนวนนั้นกลับลดลงตามกาลเวลา
การเก็บเงินไว้ในบัญชีออมทรัพย์ แม้จะปลอดภัยจากความเสี่ยง แต่ก็อาจ ‘แพ้’ ให้กับเงินเฟ้อได้ หมายความว่าเงินของเราจะซื้อของได้น้อยลงในอนาคต
——————————————————————————–
2. ไม่ต้องรวย ก็ลงทุนแบบมือโปรได้
คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่าการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายเพื่อกระจายความเสี่ยงนั้น เป็นเรื่องสำหรับคนที่มีเงินทุนหนา มีความรู้ลึกซึ้ง และมีเวลาติดตามตลาดเท่านั้น แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย
กองทุนรวม (Mutual Fund) คือเครื่องมือที่เข้ามาทลายกำแพงนี้ กองทุนรวมคือการรวบรวมเงินจากนักลงทุนรายย่อยหลายๆ คน แล้วมอบหมายให้ผู้จัดการกองทุนมืออาชีพนำเงินก้อนนั้นไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น หุ้น ตราสารหนี้ หรืออสังหาริมทรัพย์ แทนเรา
ข้อดีที่สำคัญที่สุดคือ ทำให้คนที่มีเงินทุนไม่มากสามารถเริ่มต้นลงทุนและได้พอร์ตการลงทุนที่กระจายความเสี่ยงทันที ซึ่งดีกว่าการพยายามเลือกสินทรัพย์ลงทุนด้วยตัวเอง โดยมีข้อแลกเปลี่ยนเป็นค่าธรรมเนียมในการบริหารจัดการ นี่คือเครื่องมือที่เข้ามาทลายกำแพงของเงินทุนและความรู้ เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถสร้างความมั่งคั่งได้อย่างแท้จริง
——————————————————————————–
3. เครื่องมือการเงินที่ทรงพลังที่สุด ไม่ใช่ “การลงทุน” แต่คือ “การป้องกัน”
ไม่ใช่ทุกผลิตภัณฑ์ทางการเงินถูกออกแบบมาเพื่อสร้างผลตอบแทนสูงสุด หลายคนสับสนระหว่างการลงทุนกับการบริหารความเสี่ยง ซึ่งเป็นคนละเรื่องกันโดยสิ้นเชิง
ประกัน (Insurance) คือเครื่องมือที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อ “บริหารและป้องกันความเสี่ยง” ทางการเงินโดยเฉพาะ ไม่ใช่เครื่องมือเพื่อการลงทุน หน้าที่หลักของมันคือการปกป้องเราจากภาระทางการเงินก้อนใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น การเจ็บป่วย, อุบัติเหตุ, หรือการเสียชีวิต ประกันมีหลายประเภทเพื่อตอบโจทย์ความเสี่ยงที่ต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิต ประกันสุขภาพ หรือแม้แต่ประกันทรัพย์สิน
เราจ่ายเงินที่เรียกว่า “เบี้ยประกัน” เพื่อแลกกับความคุ้มครอง แม้ว่าเราอาจจะไม่ได้รับเงินก้อนนั้นคืนหากไม่มีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้น แต่นี่คือการซื้อความสบายใจ เพื่อป้องกันไม่ให้ความมั่งคั่งที่เราพยายามสร้างมาต้องหมดไปกับค่าใช้จ่ายมหาศาลจากเหตุการณ์เพียงครั้งเดียว
การลงทุนมีไว้เพื่อ ‘สร้าง’ ความมั่งคั่ง แต่ประกันมีไว้เพื่อ ‘ปกป้อง’ ความมั่งคั่งที่คุณสร้างมา ไม่ให้หายไปในพริบตาจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
——————————————————————————–
4. ผลตอบแทนสูงมาพร้อมความเสี่ยงสูง (และนั่นไม่ใช่เรื่องแย่)
ในบรรดาเครื่องมือการเงินทั้งหมด หุ้น (Stock) คือเครื่องมือที่มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนได้สูงที่สุด การซื้อหุ้นเปรียบเสมือนการเข้าไปซื้อ “ความเป็นเจ้าของ” ส่วนเล็กๆ ในบริษัทนั้นๆ และเมื่อบริษัทเติบโต เราก็มีโอกาสทำกำไรได้สองทาง คือมูลค่าหุ้นที่เพิ่มขึ้น และ เงินปันผล ซึ่งเป็นส่วนแบ่งกำไรของบริษัท
แต่ผลตอบแทนที่สูงนั้นย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงเป็นเงาตามตัว ราคาหุ้นมีความผันผวนสูง และมีความเป็นไปได้ที่จะสูญเสียเงินต้นหากเลือกหุ้นไม่เหมาะสมหรือลงทุนผิดจังหวะ
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างความเสี่ยงและผลตอบแทนนี้ไม่ใช่เรื่องแย่ แต่มันคือทางเลือกเชิงกลยุทธ์สำหรับเป้าหมายเฉพาะทาง หุ้นจึงเป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ยอมรับความผันผวนได้และมุ่งหวัง การเติบโตในระยะยาว เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างพอร์ตการลงทุนที่สมดุล ควบคู่ไปกับเครื่องมือที่ปลอดภัยกว่า
——————————————————————————–
บทสรุป
การจัดการการเงินให้มีประสิทธิภาพไม่ใช่การตามหาเครื่องมือ “ที่ดีที่สุด” เพียงชิ้นเดียว แต่คือการทำความเข้าใจว่าเครื่องมือแต่ละอย่าง ทั้งการออม การลงทุน และการป้องกันความเสี่ยง ทำงานร่วมกันอย่างไรเพื่อสร้างรากฐานทางการเงินที่แข็งแกร่งและยั่งยืน
เมื่อรู้จักหน้าที่ของเครื่องมือแต่ละชิ้นแล้ว ลองถามตัวเองดูว่า…ในกล่องเครื่องมือทางการเงินของคุณ มีเครื่องมือครบทุกด้านเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายแล้วหรือยัง?