การใช้ภาษาและมารยาท

เรียนรู้การใช้ภาษาอย่างสุภาพและมีมารยาทในชีวิตประจำวัน

การใช้ภาษาและมารยาทที่ดีเป็นสิ่งสำคัญในการอยู่ร่วมกันในสังคม ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดี และแสดงถึงความเคารพต่อผู้อื่น

"คำพูดที่สุภาพและมารยาทที่ดีไม่มีต้นทุน แต่สร้างคุณค่าได้มากมาย"

ใช้คำพูดสุภาพในชีวิตประจำวัน

ความสำคัญของคำพูดสุภาพ

การใช้คำพูดสุภาพในชีวิตประจำวันช่วยสร้างความประทับใจและแสดงถึงการให้เกียรติผู้อื่น ทำให้การสื่อสารราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

คำสุภาพที่ควรใช้

  • "สวัสดีครับ/ค่ะ" แทน "หวัดดี"
  • "ขอบคุณครับ/ค่ะ" แทน "แต้งกิ้ว"
  • "ขอโทษครับ/ค่ะ" แทน "ซอรี่"
  • "รบกวนขอ..." แทน "เอา..."
  • "กรุณา..." แทน "ทำ..."

สถานการณ์ที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

  • การพูดกับผู้อาวุโสหรือผู้ที่มีตำแหน่งสูงกว่า
  • การพูดในที่ประชุมหรือที่สาธารณะ
  • การพูดกับลูกค้าหรือผู้รับบริการ
  • การพูดในโอกาสพิเศษหรืองานพิธีการ

ตัวอย่างประโยคสุภาพในชีวิตประจำวัน

เมื่อต้องการสั่งอาหาร: "ขอสั่งกาแฟร้อนหนึ่งแก้วครับ/ค่ะ" แทน "เอากาแฟร้อนแก้วนึง"

เมื่อต้องการถามทาง: "ขอโทษครับ/ค่ะ ขอถามทางไปห้างสรรพสินค้าหน่อยได้ไหมครับ/คะ" แทน "ห้างไปทางไหนอะ"

เมื่อต้องการขอความช่วยเหลือ: "ขอความกรุณาช่วยถือของให้หน่อยได้ไหมครับ/คะ" แทน "ช่วยถือหน่อย"

เคล็ดลับ: การใช้น้ำเสียงที่นุ่มนวลและสีหน้าที่เป็นมิตรประกอบกับคำพูดสุภาพจะช่วยเสริมความสุภาพมากยิ่งขึ้น

การพูด/เขียนขออนุญาต ขอความช่วยเหลือ

หลักการขออนุญาตและขอความช่วยเหลือ

การขออนุญาตและขอความช่วยเหลืออย่างสุภาพแสดงถึงความเคารพและให้เกียรติผู้อื่น ทำให้ได้รับการตอบสนองในทางที่ดี

รูปแบบการขออนุญาต

  • "ขออนุญาต..." (ทางการ)
  • "ขอรบกวน..." (กึ่งทางการ)
  • "ขอโทษนะครับ/คะ ผม/ดิฉันขอ..." (ทั่วไป)
  • "พอจะ...ได้ไหมครับ/คะ" (ไม่เป็นทางการ)

รูปแบบการขอความช่วยเหลือ

  • "ขอความกรุณาช่วย..." (ทางการ)
  • "รบกวนช่วย...หน่อยได้ไหมครับ/คะ" (กึ่งทางการ)
  • "ช่วย...หน่อยได้ไหมครับ/คะ" (ทั่วไป)
  • "ขอความช่วยเหลือด้าน...ครับ/ค่ะ" (ทางการ)

ตัวอย่างประโยคขออนุญาตและขอความช่วยเหลือ

การขออนุญาตในที่ทำงาน/โรงเรียน

🔹 "ขออนุญาตลากิจ 1 วัน เนื่องจากมีธุระสำคัญทางครอบครัวครับ/ค่ะ"

🔹 "ขออนุญาตเข้าพบเพื่อปรึกษาเรื่องโครงการครับ/ค่ะ"

🔹 "ขออนุญาตส่งงานช้ากว่ากำหนด 1 วัน เนื่องจาก..."

การขอความช่วยเหลือในชีวิตประจำวัน

🔹 "ขอความกรุณาช่วยถือกระเป๋าให้หน่อยได้ไหมครับ/คะ"

🔹 "รบกวนช่วยส่งเอกสารนี้ให้คุณ... หน่อยได้ไหมครับ/คะ"

🔹 "ขอโทษนะครับ/คะ ช่วยแนะนำทางไปสถานีรถไฟฟ้าหน่อยได้ไหมครับ/คะ"

การเขียนจดหมาย/อีเมลขออนุญาตอย่างเป็นทางการ

เรียน [ชื่อผู้รับ/ตำแหน่ง]

เรื่อง ขออนุญาต[ระบุเรื่อง]

        ด้วยข้าพเจ้า [ชื่อ-นามสกุล] [ตำแหน่ง/สถานะ] มีความประสงค์ขออนุญาต[ระบุเรื่องที่ต้องการขออนุญาต] เนื่องจาก[ระบุเหตุผล] ในวันที่ [ระบุวันที่] เวลา [ระบุเวลา]

        จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาอนุญาต จะเป็นพระคุณยิ่ง

ขอแสดงความนับถือ
[ลายเซ็น]
([ชื่อ-นามสกุล])
[ตำแหน่ง/สถานะ]

เคล็ดลับ: เมื่อขออนุญาตหรือขอความช่วยเหลือ ควรอธิบายเหตุผลสั้นๆ และแสดงความขอบคุณทุกครั้งเมื่อได้รับการช่วยเหลือ

การฟังอย่างมีมารยาท ไม่พูดแทรก

ความสำคัญของการฟังอย่างมีมารยาท

การฟังอย่างมีมารยาทเป็นการแสดงความเคารพต่อผู้พูด ช่วยให้เข้าใจสารได้อย่างครบถ้วน และสร้างบรรยากาศที่ดีในการสนทนา

หลักการฟังอย่างมีมารยาท

  • ตั้งใจฟังโดยไม่พูดแทรก
  • สบตาผู้พูดเป็นระยะ
  • แสดงท่าทีสนใจในสิ่งที่ผู้พูดกำลังพูด
  • ไม่เล่นโทรศัพท์หรือทำกิจกรรมอื่นขณะฟัง
  • พยักหน้าหรือแสดงปฏิกิริยาตอบรับที่เหมาะสม

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง

  • พูดแทรกขณะที่ผู้อื่นกำลังพูด
  • แสดงท่าทีเบื่อหน่ายหรือไม่สนใจ
  • เปลี่ยนเรื่องพูดทันทีโดยไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องเดิม
  • แสดงความคิดเห็นโต้แย้งอย่างรุนแรง
  • หัวเราะเยาะหรือแสดงท่าทีดูถูกความคิดเห็นของผู้พูด

เทคนิคการฟังอย่างมีประสิทธิภาพ

การฟังเชิงรุก (Active Listening)

1. ทวนความ: "ถ้าผม/ดิฉันเข้าใจถูกต้อง คุณกำลังพูดว่า..."

2. ถามคำถามเพื่อความชัดเจน: "ขอโทษครับ/ค่ะ ช่วยอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับ...ได้ไหมครับ/คะ"

3. แสดงความเข้าใจ: "ผม/ดิฉันเข้าใจความรู้สึกของคุณ..."

4. สรุปประเด็น: "สรุปแล้ว ประเด็นสำคัญคือ..."

มารยาทในการประชุมและการสนทนากลุ่ม

🔹 การขอพูด: "ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นครับ/ค่ะ" หรือยกมือขออนุญาตก่อนพูด

🔹 การไม่เห็นด้วยอย่างสุภาพ: "ผม/ดิฉันเข้าใจความคิดเห็นของคุณ แต่ขอเสนอมุมมองที่แตกต่างว่า..."

🔹 การขอให้อธิบายเพิ่มเติม: "ขออนุญาตถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็น...ครับ/ค่ะ"

แบบทดสอบตนเอง: คุณเป็นผู้ฟังที่ดีหรือไม่?

หากคุณเลือก "ใช่" หลายข้อ คุณอาจต้องปรับปรุงทักษะการฟังของคุณ

เคล็ดลับ: การฟังอย่างตั้งใจไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณเข้าใจสารได้ดีขึ้น แต่ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและความไว้วางใจจากผู้พูดอีกด้วย

การเขียนบันทึกเหตุการณ์หรือบันทึกประจำวัน

ประโยชน์ของการเขียนบันทึก

การเขียนบันทึกช่วยจดจำเหตุการณ์สำคัญ บันทึกความคิดและความรู้สึก ทบทวนและไตร่ตรองประสบการณ์ รวมถึงติดตามพัฒนาการของตนเอง

ประเภทของการเขียนบันทึก

  • บันทึกประจำวัน (Diary)
  • บันทึกการเดินทาง (Travel Journal)
  • บันทึกการเรียนรู้ (Learning Journal)
  • บันทึกความคิดสร้างสรรค์ (Creative Journal)
  • บันทึกเหตุการณ์สำคัญ (Event Log)

องค์ประกอบของบันทึกที่ดี

  • วันที่และเวลา
  • สถานที่ (ถ้ามี)
  • เหตุการณ์หรือกิจกรรมที่เกิดขึ้น
  • ความรู้สึกและความคิดเห็น
  • บทเรียนหรือข้อคิดที่ได้รับ
  • แผนหรือเป้าหมายในอนาคต

ตัวอย่างการเขียนบันทึกประจำวัน

วันอังคารที่ 15 สิงหาคม 2566

วันนี้เป็นวันที่มีความสุขมาก ตื่นเช้าขึ้นมาท้องฟ้าแจ่มใส อากาศดี ฉันตื่นเวลา 6.00 น. และออกไปวิ่งที่สวนสาธารณะใกล้บ้าน วิ่งได้ประมาณ 3 กิโลเมตร รู้สึกสดชื่นและมีพลัง

ที่ทำงานวันนี้มีการประชุมสำคัญเกี่ยวกับโครงการใหม่ ฉันได้นำเสนอไอเดียเกี่ยวกับการปรับปรุงกระบวนการทำงาน ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากทีมและหัวหน้า รู้สึกภูมิใจในตัวเองมากที่กล้าแสดงความคิดเห็น

ช่วงเย็นได้ไปทานอาหารกับเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนาน เราคุยกันถึงเรื่องเก่าๆ และแผนในอนาคต ทำให้ฉันตระหนักว่าเราต่างก็เติบโตและเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่มิตรภาพยังคงอยู่

สิ่งที่ได้เรียนรู้วันนี้: การกล้าแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์สามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีได้ และการรักษามิตรภาพเก่าๆ เป็นสิ่งที่มีค่า

เป้าหมายพรุ่งนี้: เตรียมข้อมูลสำหรับการประชุมติดตามผล และเริ่มอ่านหนังสือเล่มใหม่ที่ซื้อมา

ตัวอย่างการเขียนบันทึกเหตุการณ์

บันทึกการประชุม

วันที่: 20 สิงหาคม 2566

เวลา: 13.30 - 15.30 น.

สถานที่: ห้องประชุม A อาคารสำนักงานใหญ่

ผู้เข้าร่วมประชุม: นายสมชาย ใจดี (ประธาน), นางสาวสมหญิง รักดี, นายมานะ อดทน, นางสาวรักษ์ ศรีไทย

หัวข้อการประชุม: การวางแผนโครงการพัฒนาระบบการจัดการข้อมูลลูกค้า

สรุปประเด็นสำคัญ:
  1. นายสมชาย นำเสนอภาพรวมของโครงการและเป้าหมายที่ต้องการบรรลุ
  2. นางสาวสมหญิง รายงานผลการสำรวจความต้องการของลูกค้า
  3. นายมานะ นำเสนอแนวทางการพัฒนาระบบและงบประมาณที่ต้องใช้
  4. ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้เริ่มดำเนินโครงการภายในเดือนกันยายน
การมอบหมายงาน:
  • นางสาวสมหญิง: จัดทำรายละเอียดความต้องการของระบบ (ส่งภายใน 30 ส.ค.)
  • นายมานะ: จัดทำแผนการดำเนินงานและงบประมาณโดยละเอียด (ส่งภายใน 5 ก.ย.)
  • นางสาวรักษ์: ประสานงานกับฝ่าย IT เพื่อเตรียมความพร้อมด้านเทคนิค (รายงานความคืบหน้าภายใน 10 ก.ย.)

การประชุมครั้งต่อไป: 15 กันยายน 2566 เวลา 13.30 น.

ผู้บันทึก: นางสาวรักษ์ ศรีไทย

เคล็ดลับการเขียนบันทึกที่มีประสิทธิภาพ

สำหรับบันทึกส่วนตัว

  • เขียนอย่างสม่ำเสมอ แม้เพียงวันละ 5-10 นาที
  • เขียนอย่างอิสระ ไม่ต้องกังวลเรื่องไวยากรณ์
  • บันทึกทั้งข้อเท็จจริงและความรู้สึก
  • ใช้คำถามนำทางเพื่อกระตุ้นความคิด
  • ทบทวนบันทึกเก่าเป็นระยะเพื่อสังเกตพัฒนาการ

สำหรับบันทึกเชิงวิชาการ/อาชีพ

  • ระบุข้อมูลสำคัญให้ครบถ้วน (วัน เวลา สถานที่)
  • ใช้ภาษาที่กระชับ ชัดเจน เป็นทางการ
  • จัดโครงสร้างให้เป็นระเบียบ ง่ายต่อการอ้างอิง
  • เน้นข้อเท็จจริงมากกว่าความคิดเห็นส่วนตัว
  • สรุปประเด็นสำคัญและการดำเนินการต่อไป

แบบฝึกหัด: เริ่มเขียนบันทึกของคุณ

ลองเขียนบันทึกสั้นๆ เกี่ยวกับวันนี้ของคุณ:

เคล็ดลับ: การเขียนบันทึกไม่จำเป็นต้องยาวหรือซับซ้อน แม้เพียงไม่กี่ประโยคที่เขียนอย่างสม่ำเสมอก็สามารถสร้างประโยชน์ได้มาก

สรุปประโยชน์ของการใช้ภาษาและมารยาทที่ดี

สร้างความประทับใจที่ดี

การใช้ภาษาสุภาพและมีมารยาทที่ดีช่วยสร้างความประทับใจแรกพบและความสัมพันธ์ที่ดีในระยะยาว

ลดความขัดแย้ง

การสื่อสารอย่างสุภาพช่วยลดโอกาสเกิดความเข้าใจผิดและความขัดแย้งในการสื่อสาร

เพิ่มโอกาสความสำเร็จ

ผู้ที่มีทักษะการสื่อสารและมารยาทที่ดีมักได้รับโอกาสในการศึกษาและการทำงานมากกว่า

สร้างสังคมที่น่าอยู่

เมื่อทุกคนใช้ภาษาและมารยาทที่ดี จะช่วยสร้างสังคมที่มีความเคารพซึ่งกันและกัน น่าอยู่ และมีความสุข