หลักภาษาไทย

เรียนรู้หลักการใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง

ชนิดของคำ

ภาษาไทยแบ่งชนิดของคำออกเป็น 7 ชนิด แต่ในที่นี้จะกล่าวถึง 4 ชนิดหลักที่สำคัญ

คำนาม

คำที่ใช้เรียกชื่อคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ และสิ่งที่เป็นนามธรรม

ตัวอย่าง:

  • คน: นักเรียน ครู หมอ
  • สัตว์: สุนัข แมว นก
  • สิ่งของ: โต๊ะ เก้าอี้ หนังสือ
  • สถานที่: โรงเรียน บ้าน ตลาด
  • นามธรรม: ความรัก ความสุข ความทุกข์

คำสรรพนาม

คำที่ใช้แทนคำนามที่กล่าวมาแล้ว เพื่อไม่ต้องกล่าวซ้ำ

ตัวอย่าง:

  • บุรุษที่ 1: ฉัน ผม ดิฉัน เรา
  • บุรุษที่ 2: คุณ เธอ ท่าน
  • บุรุษที่ 3: เขา มัน พวกเขา
  • สรรพนามชี้เฉพาะ: นี่ นั่น โน่น
  • สรรพนามไม่ชี้เฉพาะ: ใคร อะไร ไหน

คำกริยา

คำที่แสดงอาการหรือการกระทำของประธาน

ตัวอย่าง:

  • กริยาแท้: วิ่ง เดิน นอน กิน
  • กริยาแสดงสภาพ: เป็น คือ อยู่
  • กริยาช่วย: จะ ได้ กำลัง ควร

คำวิเศษณ์

คำที่ใช้ขยายคำนาม คำสรรพนาม คำกริยา หรือคำวิเศษณ์ด้วยกัน

ตัวอย่าง:

  • วิเศษณ์บอกลักษณะ: สวย ใหญ่ เล็ก
  • วิเศษณ์บอกเวลา: เมื่อวาน วันนี้ พรุ่งนี้
  • วิเศษณ์บอกสถานที่: ที่นี่ ที่นั่น ข้างบน
  • วิเศษณ์บอกจำนวน: มาก น้อย หลาย

การสร้างคำ

ภาษาไทยมีวิธีการสร้างคำหลายวิธี ซึ่งทำให้เกิดคำใหม่ที่มีความหมายแตกต่างกันออกไป

คำซ้อน

คำซ้อนคือการนำคำที่มีความหมายเหมือนกัน คล้ายกัน หรือเกี่ยวข้องกันมาซ้อนกัน เพื่อให้ได้ความหมายชัดเจนขึ้น หรือเกิดความหมายใหม่

ตัวอย่าง:

  • คำซ้อนเพื่อเสียง: ผู้คน เดินทาง บ้านเรือน
  • คำซ้อนเพื่อความหมาย: เสื่อสาด ถ้วยชาม ข้าวปลา
  • คำซ้อนขัดความ: ผิดถูก ดีร้าย สูงต่ำ

คำประสม

คำประสมคือการนำคำตั้งแต่สองคำขึ้นไปมารวมกันแล้วเกิดความหมายใหม่ ซึ่งอาจสัมพันธ์หรือไม่สัมพันธ์กับคำเดิมก็ได้

ตัวอย่าง:

  • ลูกน้ำ (ลูก + น้ำ)
  • แม่บ้าน (แม่ + บ้าน)
  • น้ำตา (น้ำ + ตา)
  • ตู้เย็น (ตู้ + เย็น)
  • รถไฟ (รถ + ไฟ)

คำซ้ำ

คำซ้ำคือการนำคำคำเดียวกันมากล่าวซ้ำ เพื่อเน้นความหมาย บอกความหลากหลาย หรือเปลี่ยนความหมายของคำเดิม

ตัวอย่าง:

  • เร็วๆ (เร็ว + เร็ว) - บอกอาการ
  • เด็กๆ (เด็ก + เด็ก) - บอกพหูพจน์
  • บ่อยๆ (บ่อย + บ่อย) - บอกความถี่
  • ดำๆ (ดำ + ดำ) - บอกความไม่ชัดเจน
  • ชิดๆ (ชิด + ชิด) - บอกระยะใกล้

ประโยค

ส่วนประกอบของประโยค

ประโยคในภาษาไทยประกอบด้วยส่วนสำคัญ 3 ส่วน คือ ประธาน กริยา และกรรม

ประธาน

ผู้กระทำกริยาในประโยค มักเป็นคำนามหรือคำสรรพนาม

กริยา

คำที่แสดงการกระทำหรืออาการของประธาน

กรรม

ผู้ถูกกระทำหรือสิ่งที่ถูกกระทำ (บางประโยคอาจไม่มีกรรม)

ตัวอย่างประโยค:

แมว กิน ปลา

ประธาน: แมว, กริยา: กิน, กรรม: ปลา

นักเรียน อ่าน หนังสือ

ประธาน: นักเรียน, กริยา: อ่าน, กรรม: หนังสือ

เขา วิ่ง

ประธาน: เขา, กริยา: วิ่ง (ไม่มีกรรม)

การเรียงประโยคให้สมบูรณ์

การเรียงประโยคในภาษาไทยมีรูปแบบพื้นฐานคือ ประธาน + กริยา + กรรม แต่อาจมีส่วนขยายเพิ่มเติมได้

รูปแบบประโยคพื้นฐาน

  • ประโยคความเดียว: ประธาน + กริยา (+ กรรม)
  • ประโยคความรวม: ประโยคความเดียว + คำเชื่อม + ประโยคความเดียว
  • ประโยคความซ้อน: ประโยคหลัก + ประโยคย่อย

ตัวอย่างการเรียงประโยค:

ประโยคความเดียว:

"พ่อกำลังอ่านหนังสือพิมพ์"

ประโยคความรวม:

"แม่ทำอาหารและพ่อล้างจาน"

ประโยคความซ้อน:

"ฉันเห็นเด็กคนนั้นที่กำลังวิ่งเล่นในสวน"

คำเป็น-คำตาย

การแบ่งคำเป็นคำตายในภาษาไทยมีความสำคัญต่อการแต่งคำประพันธ์และการออกเสียง

คำเป็น

คำเป็นคือคำที่ประกอบด้วย:

  • คำที่มีตัวสะกดในมาตรา แม่ ก กา (ไม่มีตัวสะกด)
  • คำที่มีตัวสะกดในมาตรา แม่ น ง ม ย ว ร ล ฬ

ตัวอย่าง:

  • ตา (แม่ ก กา)
  • นา (แม่ ก กา)
  • คาน (แม่ น)
  • นาง (แม่ ง)
  • ลาม (แม่ ม)
  • สาย (แม่ ย)
  • กาว (แม่ ว)
  • คาร (แม่ ร)
  • คาล (แม่ ล)

คำตาย

คำตายคือคำที่ประกอบด้วย:

  • คำที่มีตัวสะกดในมาตรา แม่ ก บ ด
  • คำที่มีรูปวรรณยุกต์ ไม้เอก (่) และไม้โท (้) กำกับและไม่มีตัวสะกด

ตัวอย่าง:

  • มาก (แม่ ก)
  • รถ (แม่ ก)
  • กาบ (แม่ บ)
  • ขาด (แม่ ด)
  • จับ (แม่ บ)
  • ขัด (แม่ ด)
  • น่า (ไม้เอก)
  • ช้า (ไม้โท)

ความสำคัญของคำเป็น-คำตาย

  • ใช้ในการแต่งคำประพันธ์ เช่น กลอน โคลง ฉันท์
  • มีผลต่อการผันวรรณยุกต์และการออกเสียง
  • ช่วยในการอ่านทำนองเสนาะให้ไพเราะ

อักษรนำ อักษรควบกล้ำ

อักษรนำ

อักษรนำคือพยัญชนะตัวหน้าที่ไม่ออกเสียงของตัวเอง แต่ออกเสียงตามพยัญชนะตัวที่สอง โดยมีเสียงสั้นๆ คั่นกลาง

หลักการของอักษรนำ

  • อักษรสูงนำอักษรต่ำเดี่ยว ออกเสียงอักษรต่ำ
  • อักษรกลางนำอักษรต่ำเดี่ยว ออกเสียงอักษรต่ำ
  • ห นำอักษรสูง ออกเสียงอักษรสูง
  • อ นำ ย ออกเสียงอักษรกลาง

ตัวอย่างอักษรนำ:

สนุก (ส นำ น)

ตลาด (ต นำ ล)

ถนน (ถ นำ น)

หญิง (ห นำ ญ)

อย่า (อ นำ ย)

จริง (จ นำ ร)

อักษรควบกล้ำ

อักษรควบกล้ำคือพยัญชนะสองตัวที่ออกเสียงพร้อมกันในพยางค์เดียวกัน

ประเภทของอักษรควบกล้ำ

  • อักษรควบแท้: ออกเสียงพยัญชนะทั้งสองตัวชัดเจน
  • อักษรควบไม่แท้: ออกเสียงเฉพาะพยัญชนะตัวหน้า

ตัวอย่างอักษรควบแท้:

กร- (กรอบ)

กล- (กลม)

กว- (กวาด)

ขร- (ขรม)

ขล- (ขลัง)

ขว- (ขวาน)

ตัวอย่างอักษรควบไม่แท้:

ทร- (ทราย)

ศร- (ศรี)

สร- (สร้าง)

คำที่มักเขียนผิด/ใช้ผิด

ในภาษาไทยมีคำหลายคำที่มักเขียนผิดหรือใช้ผิดความหมาย ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างที่พบบ่อย

คำที่มักเขียนผิด

กระเพรา
กะเพรา

ชื่อของสมุนไพรชนิดหนึ่ง ไม่มี ร หลัง ก

เผลอไผล
เผลอไผล

หมายถึง เผลอเพลิน ไม่ใช่ เผลอไผล

อนุญาติ
อนุญาต

ไม่มี ิ (สระอิ) ที่ ต

นัยน์ตา
นัยนา

ไม่มี ์ (การันต์) และไม่แยกคำ

ภาพยนต์
ภาพยนตร์

มี ร และ ์ (การันต์) ที่ ร

ฉะนั้น
ฉะนั้น

เขียนถูกทั้งสองแบบ แต่ความหมายต่างกัน

คำที่มักใช้ผิดความหมาย

ดิฉัน / ผม

ใช้ผิด:

"ดิฉันขอขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงาน" (ผู้พูดเป็นผู้ชาย)

ใช้ถูก:

"ผมขอขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงาน" (ผู้พูดเป็นผู้ชาย)

"ดิฉันขอขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงาน" (ผู้พูดเป็นผู้หญิง)

ไป / มา

ใช้ผิด:

"คุณจะมาบ้านผมไหม" (ผู้พูดอยู่ที่ทำงาน)

ใช้ถูก:

"คุณจะไปบ้านผมไหม" (ผู้พูดอยู่ที่ทำงาน)

"คุณจะมาบ้านผมไหม" (ผู้พูดอยู่ที่บ้านของตัวเอง)

จำเป็น / จำใจ

ใช้ผิด:

"ฉันจำเป็นต้องบอกความจริงกับเขา" (ในความหมายที่ไม่เต็มใจ)

ใช้ถูก:

"ฉันจำใจต้องบอกความจริงกับเขา" (ไม่เต็มใจแต่ต้องทำ)

"ฉันจำเป็นต้องไปพบแพทย์" (มีความสำคัญที่ต้องทำ)